ผู้ไม่ยึดติด(3)

ผู้ไม่ยึดติด(3) 

                คุณธรรมของผู้ไม่ยึดติดในตัวเองว่านี่คือตัวเรานั้น จะให้เขียนสัก 100 ตอนก็เขียนได้ แต่ว่าท่านผู้อ่านจะเมาธรรมเช่นเดียวกับผมผู้เขียนไปด้วย ธรรมะเป็นสิ่งประเสริฐ แต่การเมาธรรมะกลับไม่ใช่สิ่งที่ประเสริฐ ก็จะขอยกตัวอย่างของผู้ไม่ติดยึดเอาไว้เพียง 3 ตอนเท่านั้น พอเป็นเครื่องพิจารณาโดยสังเขป ดังนี้คือ...

    1.     ผู้ไม่ยึดติดนั้น จะเป็นผู้มีน้ำใจงาม เป็นผู้ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ใครมีเรื่องเดือดร้อนสิ่งใด ถ้าสามารถจะเข้าไปช่วยเหลือได้ โดยตนเองไม่ได้เดือดร้อนมากนัก ไม่เป็นอันตรายต่อพรหมจรรย์ ไม่เป็นที่รังเกียจต่อสังคมชนหมู่มาก และผู้รู้ย่อมสรรเสริญในสิ่งที่จะได้ช่วยลงไปแล้วนั้น คนที่ไม่ยึดติดในร่างกายของตนแล้ว จะยินดีเข้าไปช่วย โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยยุ่งยาก แต่ในเมื่อจะช่วยแล้ว ทำไมต้องมีเงื่อนไขหลายอย่าง ว่าต้องไม่ละเมิดอันโน้นบ้าง ไม่ละเมิดอันนี้บ้าง ต้องไปเกรงกลัวอะไร ในเมื่อบอกว่ามีน้ำใจและไม่ยึดติดแล้ว นี่แบบนี้แสดงว่ายังยึดติดอยู่ล่ะสิ ก็ต้องขอตอบว่า บุคคลที่ไม่ยึดติดในตัวตนแล้วนั้น ท่านยังยึดติดในพระรัตนตรัย คือยังมีใจรักในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์อยู่ครับ และท่านยังยึดในศีล ว่าศีลนี้แหละ ทำให้สังคมไม่เดือดร้อน ทำให้สรรพชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข และเป็นเครื่องปิดกั้นอบายภูมิ การจะมีน้ำใจ หรือการจะทำความดี ต้องไม่ละเมิดต่อศีลธรรม ไม่ผิดกฎหมาย เช่นมีเพื่อนมาเที่ยวหาหลายคน จะทำอาหารเลี้ยงเพื่อนๆ แต่จะไม่ไปฆ่าเป็ดฆ่าไก่ฆ่าหมู มาเลี้ยงเพื่อน คือต้องไม่ผิดศีล เช่นนี้เป็นต้น ท่านที่ไม่ยึดติดนั้น กว่าจะรู้ธรรมเห็นธรรมได้ ท่านต้องผ่านการรักษาศีลมาดีแล้ว ท่านต้องมีฑิฐิตรงแล้ว ว่าไม่ทำชั่วทั้งปวงแล้ว ท่านยินดีในการทำดีทุกอย่าง คือรู้ดีว่าสิ่งใดชั่ว สิ่งใดเป็นบาปบ้าง แล้วระงับได้แล้ว รู้ดีว่าสิ่งใดคือความดี สิ่งใดเป็นบุญบ้าง แล้วทำดีทุกๆอย่าง ดังนั้นท่านที่ไม่ยึดติดนั้น จะไปทำผิดศีล ละเมิดกฎหมาย เป็นอันว่าไม่มีนะครับ จะไปบอกว่า ท่านเหล่านี้ยังยึดติดในศีล ไม่ได้ครับ เพราะศีลเป็นเหมือนขอบเขต แบ่งแยกระหว่างสุคติภูมิ กับอบายภูมิ ออกจากกัน คนที่ไม่ยึดติดแล้วนั้น จะไม่อยู่นอกเขตสุคติภูมิ คือไม่ก้าวไปอยู่นอกขอบเขตของศีล โดยเด็ดขาด

   2.      เป็นผู้มีความขยันหมั่นเพียร ไม่เป็นผู้เกียจคร้าน ผู้ไม่ยึดติดนั้นจะทำงานทุกอย่างที่มีประโยชน์ ไม่บ่ายเบี่ยงหรือผัดผ่อน เพราะไม่เห็นว่าร่างกายนี้เป็นตัวเป็นตนของเรา ประหนึ่งดังรถที่เช่าเขามาใช้ ก็จะใช้ขับไปทำธุระที่นั่นที่นี่ ให้เต็มประสิทธิภาพเพื่อให้คุ้มค่ากับค่าเช่ารถ จะไม่จอดแช่ทิ้งเอาไว้เฉยๆให้เปลืองค่าเช่า ท่านเหล่านั้นก็มีอาการเดียวกัน คือจะไม่นอน ถ้ายังไม่ถึงเวลาอันสมควรจะนอน จะไม่พักถ้ายังไม่ถึงเวลาอันสมควรจะพัก จะทำงานอันเหมาะสมต่อตนเอง ต่อเวลา ต่อสถานการณ์นั้นๆ โดยไม่ย่อท้อเหน็ดเหนื่อย


  3.   อาการอื่นๆนอกจากนี้ก็คือ เป็นผู้โกรธยาก หรือไม่ค่อยจะโกรธ เพราะไม่เห็นว่าตัวตนนี้เป็นของตนเองแล้ว จะไปโกรธเพื่อตัวตนนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ เป็นผู้ไม่โลภ เพราะไม่รู้จะโลภไปเพื่อตัวตนอันไม่ใช่ของตนไปเพื่ออะไร ทำงานทุกอย่างสุดกำลังความสามารถ จะได้เท่าไรก็ยินดีเท่านั้น ไม่ต้องการอะไรที่ไม่สมควรจะได้ ไม่ต้องการของของคนอื่นมาเป็นของตน เป็นคนวาจาสุภาพ ไม่ด่าว่าให้ร้ายใคร ไม่เพ่งโทษผู้อื่น  ซึ่งจะกล่าวถึงคุณลักษณะสมบัติของผู้ไม่ยึดติดแล้วนั้น คงกล่าวได้ถึง 100 ตอนก็ไม่หมด แต่จะขอจบเอาไว้ในตอนที่ 3 นี้ เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อยาวไปจนน่ารำคาญ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิปัสสนานั่งหลับตา ตอนที่ 1

มหาสติปัฏฐาน๔ฉบับหลงธรรมตอนที่๒

พระนิพพาน ๑