บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2018

วิปัสสนานั่งหลับตา ตอนที่ 2

รูปภาพ
วิปัสสนานั่งหลับตาตอนที่ 2                คนเราสมัยนี้มีความมักง่าย มักใหญ่ใฝ่สูง มีความทะยานอยากมาก แต่ว่ามีความเพียรน้อย ความอดทนอดกลั้นมีน้อย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วก็มักมุ่งไปหาแนวทางที่จะบรรลุธรรมโดยง่าย บรรลุธรรมโดยเฉียบพลัน จึงไปยึดถือเอาตัวอย่างของท่าน พาหิยะ ที่ฟังธรรมสั้นๆก็สำเร็จอรหัตผล พระสารีบุตตะ ที่ฟังธรรมวาระเดียวสำเร็จเป็นพระโสดาบัน โดยไม่เคยดูตัวอย่างพระอานนท์ ที่ฟังเทศน์ฟังธรรม มาตลอดพระชนมายุขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ก็ยังเป็นพระโสดาบันในวันที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธ์ เข้าสู่พระนิพพาน หวังแต่จะบรรลุเร็วๆ โดยไม่ดูว่าพระที่ท่านฟังเทศน์จบเดียวสำเร็จอรหัตผลเลยนั้น ท่านได้ประกอบกิจความเพียรในแต่ละชาติเอาไว้อย่างไรบ้าง บารมีที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นทำเอาไว้ เกินกว่าผลที่จะเกิดขึ้นไปไกลมากแล้ว เปรียบเหมือนคนที่เดินไฟ ติดสวิตช์ ติดหลอด ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอเพียงมีคนมากดสวิตช์เข้า เพียงเท่านั้นไฟก็จะติดสว่างไสว แล้วลองหันมามองดูตัวของเราเอง สายไฟไม่มี หลอดไฟก็ไม่มี สวิตช์ก็ไม่มี ไม่มีอะไรสักอย่างเดียว แต่ว่าอยากจะสว่างไสว จุดติดในทันที คนพวกนี้มีเยอะมาก แ

วิปัสสนานั่งหลับตา ตอนที่ 1

รูปภาพ
วิปัสสนานั่งหลับตา ตอนที่ 1                ในวัย 4-5 ขวบ พอจะเริ่มจำความได้ เวลานั้นก็เริ่มฝึกสมาธิ โดยไม่รู้ว่านั่นคือสมาธิ เพ่งแสงสว่าง โดยไม่รู้ว่านั่นคือ กสิณ ไม่รู้จักคำบริกรรม ยังไม่รู้จักองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่รู้การจับลมหายใจเข้า หายใจออก ไม่รู้อะไรทั้งนั้น มีความรู้สึกอย่างเดียวคือทำลงไปแล้วมีความรู้สึกสบายใจ มีความสุขใจดี ก็ไม่ได้รู้สึกว่าสุขจนเลิศเลอ ยิ่งกว่าสุขทั้งหลายทั้งปวงในโลกนี้ก็หาไม่ สุขก็สุข สบายใจก็สบายใจ ก็แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรพิเศษพิสดาร รู้เพียงเท่านี้ ตามประสาเด็ก ความรู้ในช่วงเวลานี้แม้ดูว่าจะโง่ไปสักหน่อย แต่ก็นับว่ามีประโยชน์ในวันที่หลงทาง เพราะประสาเด็ก ที่ฝึกโดยไม่ได้คาดหวังสิ่งใดๆ ไม่ได้ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดๆ หวังเพียงความสบายใจเพียงอย่างเดียว ไม่มีความรู้ใดๆเข้ามาปะปน อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกสมาธิที่ถูกต้องแล้วก็เป็นได้                เติบโตขึ้นมาพร้อมๆกับความรู้ที่ได้จากการอ่าน จากการฟัง จากการคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์ การถกเถียงกับท่านผู้รู้ การสอบถามจากครูบาอาจารย์ ตั้งแต่การเขียนยันต์ เรียนคาถาอาคม ดูลายมือ เลข๗ตัว อานาปาณส

ธรรมที่ยอมหลง

รูปภาพ
ธรรมที่ยอมหลง                            ผมเคยคิดในใจว่า ทำไม? หลวงพ่อไม่เห็นปฏิบัติธรรมภาวนาเลย เมื่อบรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว ไม่ต้องปฏิบัติธรรม ไม่ต้องภาวนาก็ได้งั้นเหรอ แบบนี้จะได้ชื่อว่าประมาทหรือไม่ ไฉนพระมหากัสสป จึงยังถือธุดงควัตร ๑๓ เพื่อให้เป็นแบบอย่างต่อพระภิกษุภายหลังเล่า มีคำถามถึงวัตรปฎิบัติหลายอย่างของครูบาอาจารย์ ที่ทำให้เกิดความสงสัย คำตอบต่างๆก็ฟังดูเหมือนการแก้ตัวแก้ต่าง บ้างก็ขู่เอาว่าจะต้องตกนรกหมกไหม้ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด ทำให้ผมเก็บความสงสัยเหล่านี้เอาไว้แล้วเร่งรัดฝึกฝนตนเองดีกว่า การเที่ยวไปสงสัยในบุคคลอื่น นอกจากหาประโยชน์มิได้แล้ว ยังเป็นความโง่ บ้า ถือฑิฐิ ไม่มีดีเลยสักอย่างเดียว ถ้าต้องการจะสิ้นสงสัย ในเรื่องของการปฏิบัติ ก็ต้องปฏิบัติไปให้ถึงที่สุด ให้สิ้นสงสัย อย่างนี้จึงจะถูกต้องกว่า                คนที่ฟังมามาก อ่านมามาก ก็ยิ่งสงสัยมาก ยิ่งสงสัยมากก็ยิ่งครุ่นคิดตรึกตรองด้วยปัญญาจากมันสมอง ที่ถูกถือครองโดยกิเลส ตัณหา อุปาทาน เพื่อให้ได้คำตอบที่สมกับใจของตนเอง คือตรงตามที่ตนเองอยากเชื่อ จะจริงหรือไม่จริง ไม่สำคัญเท่ากับ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ความจ

ว่างหรือคิดว่าว่าง

รูปภาพ
ว่าง หรือ คิดว่าว่าง                สมัยนี้มีการเผยแพร่คำสอนต่างๆทางสื่อทั้งหลายมากมาย ถ้าเป็นคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาเป็นเวลานาน คำสอนทั้งหลายท่านจะไม่หนีไปจากพระไตรปิฎกเลย ซึ่งก็มีไม่น้อยที่พยายามจะสอนให้ตนเองดูเหนือกว่าครูบาอาจารย์รุ่นก่อนๆ หรือแม้กระทั่งจะเหนือไปกว่าองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว เรื่องแบบนี้ท่านทั้งหลายก็ขออย่าได้แปลกใจ เพราะมีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลแล้ว เช่นพระเทวฑัต เป็นต้น ซึ่งท่านทั้งหลายต่างทราบกันเป็นอย่างดี                ตัวอย่างคำสอนในเรื่องความว่าง ได้แก่ การไม่นึกไม่คิด ไม่ต้องสนใจอะไรใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องไปเอาคำบริกรรมภาวนา ไม่ต้องไปจับลมหายใจ ทิ้งทุกอย่างทั้งหมด แค่นี้ก็ว่างแล้ว จะต้องไปทำอะไรอีก ไอ้การที่จะต้องทำแบบนั้น มีรูปแบบแบบนี้ นั่นแหละยึด แล้วก็ไปไหนไม่ได้ ทิ้งมันให้หมด ไม่เอาอะไรทั้งนั้น มันก็ว่างแล้ว ไม่มีอะไรทั้งนั้น ง่ายๆแค่นี้ก็ถึงนิพพานแล้ว ไม่ต้องมาพิจารณาอะไรทั้งนั้น ไอ้การนึกคิดพิจารณาทั้งหลายนี่ก็อุปาทานกันขึ้นมาเอง ว่างจริงๆพิจารณาก็ไม่ต้องมี จะไปพิจารณามันทำไมในเมื่อมันว่างแล้ว พอพิจารณานี่สิมันได้ถึ